Customer Reviews

I heard that this author' s company just went bankrupt... regardless this is a very eye-opening book

I heard that this author' s company just went bankrupt... regardless this is a very eye-opening book

ผู้เขียนท่านนี้เขียนหนังสือได้ดี แต่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งว่าตัวผู้เขียนเอง จริงๆแล้วไม่ใช่คนที่ประสบความสำเร็จทางการเงินอย่างมากมายซักเท่าไหร่ ดูเหมือนกับว่าเขาไม่ได้เป็นนักธุรกิจที่เก่งกาจ และรายได้จริงๆแล้ว กลับมาจากการทำธุรกิจจำพวก ขายตรง หรือ เขียนหนังสือขายอะไรพวกนี้ อีกทั้งเนื้อหาแนะนำการทำธุรกิจในหนังสือก็ไม่ค่อยมีตัวอย่างในการทำธุรกิจประเภทอื่นนอกจากพวกอสังหาริมทรัพย์ ให้เช่าบ้าน อะไรพวกนี้ ทำให้หนังสือไม่มีความกว้าง แต่ถ้านับแต่เฉพาะด้านความรู้ทั่วไปก็นับว่าเป็นหนังสือที่ดีอีกเล่ม

ผู้เขียนท่านนี้เขียนหนังสือได้ดี แต่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งว่าตัวผู้เขียนเอง จริงๆแล้วไม่ใช่คนที่ประสบความสำเร็จทางการเงินอย่างมากมายซักเท่าไหร่ ดูเหมือนกับว่าเขาไม่ได้เป็นนักธุรกิจที่เก่งกาจ และรายได้จริงๆแล้ว กลับมาจากการทำธุรกิจจำพวก ขายตรง หรือ เขียนหนังสือขายอะไรพวกนี้ อีกทั้งเนื้อหาแนะนำการทำธุรกิจในหนังสือก็ไม่ค่อยมีตัวอย่างในการทำธุรกิจประเภทอื่นนอกจากพวกอสังหาริมทรัพย์ ให้เช่าบ้าน อะไรพวกนี้ ทำให้หนังสือไม่มีความกว้าง แต่ถ้านับแต่เฉพาะด้านความรู้ทั่วไปก็นับว่าเป็นหนังสือที่ดีอีกเล่ม

คุณค่าที่ได้จาก Dhandho investor เล่มนี้ ไม่ใช่มีแต่เพียงหลักการแนว VI ที่มีอยู่ในหนังสือการลงทุนเน้นคุณค่าในปัจจุบัน แต่มันกลับเป็นเคสของการลงทุนในบริษัทที่น่าสนใจมากมายที่ผู้เขียนได้นำมารวบรวมใว้ในเล่ม เช่น ธุรกิจ motel, virgin, ธุรกิจเหล็กของ mittal, Bed&Bath and Beyond, Chipotle, ธุรกิจให้บริการงานศพ Steward enterprise, ธุรกิจเรือบรรทุกน้ำมัน Knightbridge และธุรกิจแปลกๆอื่นๆอีกมากมายที่ถ้าเราหาข้อมูลอาจจะต้องเสียเวลาหานาน แต่เราสามารถศึกษาพวกมันได้เยอะมากจากหนังสือเล่มนี้

คุณค่าที่ได้จาก Dhandho investor เล่มนี้ ไม่ใช่มีแต่เพียงหลักการแนว VI ที่มีอยู่ในหนังสือการลงทุนเน้นคุณค่าในปัจจุบัน แต่มันกลับเป็นเคสของการลงทุนในบริษัทที่น่าสนใจมากมายที่ผู้เขียนได้นำมารวบรวมใว้ในเล่ม เช่น ธุรกิจ motel, virgin, ธุรกิจเหล็กของ mittal, Bed&Bath and Beyond, Chipotle, ธุรกิจให้บริการงานศพ Steward enterprise, ธุรกิจเรือบรรทุกน้ำมัน Knightbridge และธุรกิจแปลกๆอื่นๆอีกมากมายที่ถ้าเราหาข้อมูลอาจจะต้องเสียเวลาหานาน แต่เราสามารถศึกษาพวกมันได้เยอะมากจากหนังสือเล่มนี้

สุดท้ายแล้วสิ่งที่เราจะต้องทำหลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้จบก็คือ หยุดพูด และเริ่มทำ ซึ่งก็ตลกดี เพราะถ้าทำได้เหมือนชื่อหนังสือเล่มนี้ รับรองว่าคงจะมีคนที่ประสบความสำเร็จเพิ่มขึ้นอีกเป็นล้าน 555 ซึ่งก็ดูเหมือนง่าย แต่จริงๆแล้วเป็นเรื่องที่อาจจะยากที่สุดในโลกเพราะว่ามันจะขัดกับพลังภายในของเราที่อยากจะนั่งดูทีวีทั้งวันเสียมากกว่า ก่อนอื่นต้องบอกว่าหนังสือเล่มนี้ไม่เหมือนกับหนังสือแนวพัฒนาตนเองเล่มอื่นๆ หนังสือเล่มนี้นั้นไม่ได้ปล่อยคำศัพท์ที่ยากสุดมาให้เราเซ็งเล่น แต่จะเป็นเรื่องราวความจริง แบบไม่ได้พูดลอยๆอย่างเดียว เป็นความจริงที่จะช่วยให้คุณต้องลุกขึ้นมาทำอะไรซักอย่างแบบจริงจังและทำทันที โดยจะอ่านง่ายสุดๆ สนุกมากๆ และช่วยปลุกพลังในตัวอย่างดีทีเดียว โดยมีเรื่องราวของ Rechard Branson, Benjamin Frankin ซึ่งเล่าได้สนุกมากเช่นกัน โดยหนังสือเล่มนี้จะสั้นๆ อ่านไม่นานก็จบครับ เหมาะสำหรับทุกคน และยิ่งดีถ้าคุณไม่ชอบอ่านหนังสือ เพราะคุณจะเริ่มหันมาอ่านหนังสือเมื่ออ่านเล่มนี้เป็นเล่มแรกอย่างแน่นอน

สุดท้ายแล้วสิ่งที่เราจะต้องทำหลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้จบก็คือ หยุดพูด และเริ่มทำ ซึ่งก็ตลกดี เพราะถ้าทำได้เหมือนชื่อหนังสือเล่มนี้ รับรองว่าคงจะมีคนที่ประสบความสำเร็จเพิ่มขึ้นอีกเป็นล้าน 555 ซึ่งก็ดูเหมือนง่าย แต่จริงๆแล้วเป็นเรื่องที่อาจจะยากที่สุดในโลกเพราะว่ามันจะขัดกับพลังภายในของเราที่อยากจะนั่งดูทีวีทั้งวันเสียมากกว่า ก่อนอื่นต้องบอกว่าหนังสือเล่มนี้ไม่เหมือนกับหนังสือแนวพัฒนาตนเองเล่มอื่นๆ หนังสือเล่มนี้นั้นไม่ได้ปล่อยคำศัพท์ที่ยากสุดมาให้เราเซ็งเล่น แต่จะเป็นเรื่องราวความจริง แบบไม่ได้พูดลอยๆอย่างเดียว เป็นความจริงที่จะช่วยให้คุณต้องลุกขึ้นมาทำอะไรซักอย่างแบบจริงจังและทำทันที โดยจะอ่านง่ายสุดๆ สนุกมากๆ และช่วยปลุกพลังในตัวอย่างดีทีเดียว โดยมีเรื่องราวของ Rechard Branson, Benjamin Frankin ซึ่งเล่าได้สนุกมากเช่นกัน โดยหนังสือเล่มนี้จะสั้นๆ อ่านไม่นานก็จบครับ เหมาะสำหรับทุกคน และยิ่งดีถ้าคุณไม่ชอบอ่านหนังสือ เพราะคุณจะเริ่มหันมาอ่านหนังสือเมื่ออ่านเล่มนี้เป็นเล่มแรกอย่างแน่นอน

ในหนังสือเล่มนี้ผู้เขียนได้ทำการทดลองหลายอย่างมาก และใช้ระยะเวลาพอสมควรในการรวบรวมผลการทดลองต่างๆมาให้เราได้อ่านกันในหนังสือเล่มนี้ โดยการทดลองก็เพื่อที่จะหาว่าทำไมคนเราถึงได้ทำเรื่องบางเรื่อง โดยสิ่งที่ผมได้จากเล่มนี้ที่น่าสนใจก็เช่น

- ทำไมความทรงจำของเราถึงได้ถูกสร้างความทรงจำที่ผิดได้ไม่ยากนัก
- คนรับเมนูอาหารจะทำอย่างไรถึงได้ทิปมากขึ้นกว่าเก่า
- ทำไมคุณถึงได้ถูกดึงดูดเข้าหาคนในขณะที่คุณอยู่ในสถานการณ์ที่ทำให้หัวใจคุณเต้นแรง
- ทำไมคำที่มีตัว K มีโอกาศทำให้คนอื่นหัวเราะได้มากกว่า อาจจะเพราะว่าเวลาออกเสียงตัว K นั้นใบหน้าเราเหมือนกับกำลังยิ้มอยู่

หนังสือเล่มนี้เขียนด้วยภาษาที่อ่านง่าย อ่านสนุก และแต่ละส่วนล้วนแล้วแต่มีเรื่องที่น่าคิดแทรกเข้ามาให้ฉงนทั้งสิ้น ซึ่งแม้ว่าแต่ละบทอาจจะไม่ค่อยปะติดปะต่อกันนัก ก็ไม่ได้ทำให้การอ่านติดขัดซักเท่าไหร่ หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับคนที่สนใจเรื่องพฤติกรรมของมนุษย์อย่างมาก เพราะว่าจริงๆแล้วพฤติกรรมคนเรานั้นสามารถถูกเดาออกได้ง่ายกว่าที่คิดมาก

ในหนังสือเล่มนี้ผู้เขียนได้ทำการทดลองหลายอย่างมาก และใช้ระยะเวลาพอสมควรในการรวบรวมผลการทดลองต่างๆมาให้เราได้อ่านกันในหนังสือเล่มนี้ โดยการทดลองก็เพื่อที่จะหาว่าทำไมคนเราถึงได้ทำเรื่องบางเรื่อง โดยสิ่งที่ผมได้จากเล่มนี้ที่น่าสนใจก็เช่น

- ทำไมความทรงจำของเราถึงได้ถูกสร้างความทรงจำที่ผิดได้ไม่ยากนัก
- คนรับเมนูอาหารจะทำอย่างไรถึงได้ทิปมากขึ้นกว่าเก่า
- ทำไมคุณถึงได้ถูกดึงดูดเข้าหาคนในขณะที่คุณอยู่ในสถานการณ์ที่ทำให้หัวใจคุณเต้นแรง
- ทำไมคำที่มีตัว K มีโอกาศทำให้คนอื่นหัวเราะได้มากกว่า อาจจะเพราะว่าเวลาออกเสียงตัว K นั้นใบหน้าเราเหมือนกับกำลังยิ้มอยู่

หนังสือเล่มนี้เขียนด้วยภาษาที่อ่านง่าย อ่านสนุก และแต่ละส่วนล้วนแล้วแต่มีเรื่องที่น่าคิดแทรกเข้ามาให้ฉงนทั้งสิ้น ซึ่งแม้ว่าแต่ละบทอาจจะไม่ค่อยปะติดปะต่อกันนัก ก็ไม่ได้ทำให้การอ่านติดขัดซักเท่าไหร่ หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับคนที่สนใจเรื่องพฤติกรรมของมนุษย์อย่างมาก เพราะว่าจริงๆแล้วพฤติกรรมคนเรานั้นสามารถถูกเดาออกได้ง่ายกว่าที่คิดมาก

1 ในซีรี่ส์ พ่อรวยสอนลูกที่จะแบ่งประเภทที่มาของรายได้ออกเป็น 4 ประเภท ซึ่งเราทุกคนล้วนอยู่ในประเภทใดประเภทหนึ่ง หรือบางท่านอาจจะอยู่ใน 2 ประเภทหรือแม้แต่ 3 ประเภท การแบ่งให้ชัดเจนนี้ทำให้เราได้มองเห็นภาพว่าแท้จริงแล้ว การหาเงินนั้นมีความยากง่ายต่างกัน และใช้เวลาก็ต่างกัน หรือแม้แต่จำนวนเงินที่จะหาได้ในท้ายที่สุดแล้วก็ต่างกันเช่นกัน ผู้เขียนต้องการที่จะพยายามให้คนส่วนใหญ่พยายามไปให้ถึง ด้าน เจ้าของกิจการ และ นักลงทุน เพราะเป็นด้านที่มีอิสรภาพทางการเงิน มีความมั่งคั่ง และที่สำคัญมีเวลา ซึ่งด้านลูกจ้างหรือ คนทำธุรกิจส่วนตัวแทบจะไม่สามารถหามาได้ครบเลย หนังสือเล่มนี้ได้อธิบายถึงภาพรวมแต่ไม่ได้บอกวิธีเจาะจงว่าเราควรจะทำอย่างไรบ้างเพื่อที่จะก้าวข้ามไปสู่สองด้านที่มีอิสรภาพ เพราะฉะนั้นเราอาจจะเริ่มอ่านหนังสือเล่มนี้เพื่อศึกษามุมมองของแต่ละด้านว่าคนที่อยู่ในด้านนั้นๆ เขาคิดอย่างไร แต่การที่จะก้าวข้ามไปสู่ด้าน นักลงทุน หรือ เจ้าของกิจการนั้น เราต้องมาศึกษาเพิ่มเติมเอาเองว่าจะใช้วิธีไหน จะวางแผนอย่างไร และต้องใช้ความสามารถด้านใด เพื่อที่จะได้ศึกษาลงลึกเพื่อที่จะได้เป็นเจ้าของกิจการที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ หรือนักลงทุนผู้เปี่ยมไปด้วยความรู้ และหลักการช่วยนำทาง

1 ในซีรี่ส์ พ่อรวยสอนลูกที่จะแบ่งประเภทที่มาของรายได้ออกเป็น 4 ประเภท ซึ่งเราทุกคนล้วนอยู่ในประเภทใดประเภทหนึ่ง หรือบางท่านอาจจะอยู่ใน 2 ประเภทหรือแม้แต่ 3 ประเภท การแบ่งให้ชัดเจนนี้ทำให้เราได้มองเห็นภาพว่าแท้จริงแล้ว การหาเงินนั้นมีความยากง่ายต่างกัน และใช้เวลาก็ต่างกัน หรือแม้แต่จำนวนเงินที่จะหาได้ในท้ายที่สุดแล้วก็ต่างกันเช่นกัน ผู้เขียนต้องการที่จะพยายามให้คนส่วนใหญ่พยายามไปให้ถึง ด้าน เจ้าของกิจการ และ นักลงทุน เพราะเป็นด้านที่มีอิสรภาพทางการเงิน มีความมั่งคั่ง และที่สำคัญมีเวลา ซึ่งด้านลูกจ้างหรือ คนทำธุรกิจส่วนตัวแทบจะไม่สามารถหามาได้ครบเลย หนังสือเล่มนี้ได้อธิบายถึงภาพรวมแต่ไม่ได้บอกวิธีเจาะจงว่าเราควรจะทำอย่างไรบ้างเพื่อที่จะก้าวข้ามไปสู่สองด้านที่มีอิสรภาพ เพราะฉะนั้นเราอาจจะเริ่มอ่านหนังสือเล่มนี้เพื่อศึกษามุมมองของแต่ละด้านว่าคนที่อยู่ในด้านนั้นๆ เขาคิดอย่างไร แต่การที่จะก้าวข้ามไปสู่ด้าน นักลงทุน หรือ เจ้าของกิจการนั้น เราต้องมาศึกษาเพิ่มเติมเอาเองว่าจะใช้วิธีไหน จะวางแผนอย่างไร และต้องใช้ความสามารถด้านใด เพื่อที่จะได้ศึกษาลงลึกเพื่อที่จะได้เป็นเจ้าของกิจการที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ หรือนักลงทุนผู้เปี่ยมไปด้วยความรู้ และหลักการช่วยนำทาง

หนังสือเล่มนี้ ผมอ่านจบไปแล้วก็นึกไม่ออกว่าอ่านอะไรไปบ้าง เพราะเนื้อหามันไม่มีอะไรจริงๆ แต่เวลาอ่านบางทีก็ทำให้นึกถึงด้านมืดของตัวเองว่า ตัวเองก็อยากที่จะร่ำรวยตั้งแต่อายุน้อยๆเช่นกัน และหนังสือเล่มนี้ก็จะพยายามทำให้วัยรุ่นนั้นต้องรีบสร้างเนื้อสร้างตัวให้มีเงิน (ในเล่มบอกว่าอย่างน้อย 10 ล้าน) ก่อนอายุเท่านั้นเท่านี้ ซึ่งในความคิดของผมกลับมองว่าการคิดแบบนี้นั้นเป็นการมองโลกในแง่เดียว ในแง่ของการหาเงินเป็นตัวเงิน แต่ไม่ได้เสริมสร้างความเป็นผู้ประกอบการที่ดี ไม่ได้สร้างคนที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง แต่กลับทำให้มองเห็นว่า แค่หาเงินให้ได้เร็วๆ เกษียณ เร็วๆ อยากซื้อของแพงแค่ไหนก็ซื้อ และไม่ต้องทำงาน กลายเป็นภาพที่วัยรุ่นที่ทุกคนต้องการเช่นนี้ มันทำให้คนที่โดนล้างสมองไปในทางนี้ต้องไปทำในสิ่งที่ เป้าหมายคือเรื่องพวกนี้อย่างเดียว ซึ่งในระยะยาวแล้วอาจจะไม่ได้ดีกับพวกเขาอย่างที่คิด ขอให้อ่านแล้วคิดเรื่องพวกนี้ให้ดีๆ

หนังสือเล่มนี้ ผมอ่านจบไปแล้วก็นึกไม่ออกว่าอ่านอะไรไปบ้าง เพราะเนื้อหามันไม่มีอะไรจริงๆ แต่เวลาอ่านบางทีก็ทำให้นึกถึงด้านมืดของตัวเองว่า ตัวเองก็อยากที่จะร่ำรวยตั้งแต่อายุน้อยๆเช่นกัน และหนังสือเล่มนี้ก็จะพยายามทำให้วัยรุ่นนั้นต้องรีบสร้างเนื้อสร้างตัวให้มีเงิน (ในเล่มบอกว่าอย่างน้อย 10 ล้าน) ก่อนอายุเท่านั้นเท่านี้ ซึ่งในความคิดของผมกลับมองว่าการคิดแบบนี้นั้นเป็นการมองโลกในแง่เดียว ในแง่ของการหาเงินเป็นตัวเงิน แต่ไม่ได้เสริมสร้างความเป็นผู้ประกอบการที่ดี ไม่ได้สร้างคนที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง แต่กลับทำให้มองเห็นว่า แค่หาเงินให้ได้เร็วๆ เกษียณ เร็วๆ อยากซื้อของแพงแค่ไหนก็ซื้อ และไม่ต้องทำงาน กลายเป็นภาพที่วัยรุ่นที่ทุกคนต้องการเช่นนี้ มันทำให้คนที่โดนล้างสมองไปในทางนี้ต้องไปทำในสิ่งที่ เป้าหมายคือเรื่องพวกนี้อย่างเดียว ซึ่งในระยะยาวแล้วอาจจะไม่ได้ดีกับพวกเขาอย่างที่คิด ขอให้อ่านแล้วคิดเรื่องพวกนี้ให้ดีๆ

ถ้าท่านเป็นแฟนของ one up on wall street ห้ามพลาดเล่มนี้เด็ดขาด เนื่องจากเล่มนี้เป็นเล่มที่เขาเขียนได้ดีไม่แพ้กับ one up on wall street เลยทีเดียว โดยหลักๆโครงสร้างของเนื้อหาจะแตกต่างกันตรงที่ one up on wall street จะเป็นเกี่ยวกับหลักการวิธีการลงทุนเป็นหลัก แต่เล่มนี้จะเน้นการลงทุนในตลอดช่วงที่ปีเตอร์ลินช์ ได้บริหารกองทุนของเขา และจะสอดแทรกวิธีหรือแนวคิดการลงทุนของเขาไปตลอดเล่ม ซึ่งทำให้อ่านแล้วไม่เบื่อเลยเพราะจะได้ค้นพบสิ่งที่ต่างๆที่ซ่อนอยู่ภายในเล่มเต็มไปหมด ซึ่งเราจะได้เรื่องราวที่จะไม่ได้จากหนังสือ one up on wall street เช่นกัน จริงๆแล้วถ้านักลงทุนผู้นี้เขียนหนังสือเล่มไหนออกมาก็ควรซื้อเก็บหมดละครับ เพราะจริงๆแล้วหนังสือที่เขาเขียนมีเพียงไ่มกี่เล่ม และแต่ละเล่มก็ถือเป็นสุดยอดหนังสือที่นักลงทุนระยะยาวไม่ควรพลาดอยู่แล้ว

ถ้าท่านเป็นแฟนของ one up on wall street ห้ามพลาดเล่มนี้เด็ดขาด เนื่องจากเล่มนี้เป็นเล่มที่เขาเขียนได้ดีไม่แพ้กับ one up on wall street เลยทีเดียว โดยหลักๆโครงสร้างของเนื้อหาจะแตกต่างกันตรงที่ one up on wall street จะเป็นเกี่ยวกับหลักการวิธีการลงทุนเป็นหลัก แต่เล่มนี้จะเน้นการลงทุนในตลอดช่วงที่ปีเตอร์ลินช์ ได้บริหารกองทุนของเขา และจะสอดแทรกวิธีหรือแนวคิดการลงทุนของเขาไปตลอดเล่ม ซึ่งทำให้อ่านแล้วไม่เบื่อเลยเพราะจะได้ค้นพบสิ่งที่ต่างๆที่ซ่อนอยู่ภายในเล่มเต็มไปหมด ซึ่งเราจะได้เรื่องราวที่จะไม่ได้จากหนังสือ one up on wall street เช่นกัน จริงๆแล้วถ้านักลงทุนผู้นี้เขียนหนังสือเล่มไหนออกมาก็ควรซื้อเก็บหมดละครับ เพราะจริงๆแล้วหนังสือที่เขาเขียนมีเพียงไ่มกี่เล่ม และแต่ละเล่มก็ถือเป็นสุดยอดหนังสือที่นักลงทุนระยะยาวไม่ควรพลาดอยู่แล้ว

แค่ 30 นาทีก่อนนอน เปลี่ยนคนยอดแย่เป็นยอดเยี่ยม เป็นหนังสือที่มาคู่กับ แค่ 30 นาทีตอนเช้า เปลี่ยนความล้มเหลวเป็นความสำเร็จ สิ่งที่ผมกำลังจะบอกก็คือหนังสือทั้งสองเล่มนี้มีหลายส่วนตัวมีการซ้อนทับกันพอสมควร และส่วนที่สำคัญสำหรับผม คิดว่าน่าจะอยู่ในเล่ม 30 นาทีตอนเช้าซะมากกว่า เพราะว่า 30 นาทีในตอนเช้าดูจะเป็นช่วงเวลาที่สมองปลอดโปร่งกว่าและสามารถทำงานได้เยอะมาก ส่วนช่วงเวลาตอนกลางคืนของเล่มนี้นั้นผู้เขียนก็ไม่ได้บอกอย่างชัดเจนว่ามันสามารถที่จะทำอะไรได้บ้าง แต่ถ้าไม่คิดถึงเรื่องนี้แล้ว ยังไงก็ต้องนับว่าเป็นหนังสือพัฒนาตัวเองที่ดีอีกเล่มเพราะมันได้นำหลักการทางวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วยอธิบายว่าทำไมการนอนของคนเราแท้จริงแล้วมีแบบไหน และควรที่จะนอนอย่างไรเป็นต้น ถ้าอยากซื้อทั้งสองเล่มก็ได้ แต่ผมแนะนำแค่ 30 นาทีตอนเช้าให้เป็นเล่มแรก และถ้าเป็นนักอ่านตัวยงที่ต้องการอ่านให้ครบทุกเล่มค่อยซื้อเล่มนี้ก็ยังไม่สาย

แค่ 30 นาทีก่อนนอน เปลี่ยนคนยอดแย่เป็นยอดเยี่ยม เป็นหนังสือที่มาคู่กับ แค่ 30 นาทีตอนเช้า เปลี่ยนความล้มเหลวเป็นความสำเร็จ สิ่งที่ผมกำลังจะบอกก็คือหนังสือทั้งสองเล่มนี้มีหลายส่วนตัวมีการซ้อนทับกันพอสมควร และส่วนที่สำคัญสำหรับผม คิดว่าน่าจะอยู่ในเล่ม 30 นาทีตอนเช้าซะมากกว่า เพราะว่า 30 นาทีในตอนเช้าดูจะเป็นช่วงเวลาที่สมองปลอดโปร่งกว่าและสามารถทำงานได้เยอะมาก ส่วนช่วงเวลาตอนกลางคืนของเล่มนี้นั้นผู้เขียนก็ไม่ได้บอกอย่างชัดเจนว่ามันสามารถที่จะทำอะไรได้บ้าง แต่ถ้าไม่คิดถึงเรื่องนี้แล้ว ยังไงก็ต้องนับว่าเป็นหนังสือพัฒนาตัวเองที่ดีอีกเล่มเพราะมันได้นำหลักการทางวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วยอธิบายว่าทำไมการนอนของคนเราแท้จริงแล้วมีแบบไหน และควรที่จะนอนอย่างไรเป็นต้น ถ้าอยากซื้อทั้งสองเล่มก็ได้ แต่ผมแนะนำแค่ 30 นาทีตอนเช้าให้เป็นเล่มแรก และถ้าเป็นนักอ่านตัวยงที่ต้องการอ่านให้ครบทุกเล่มค่อยซื้อเล่มนี้ก็ยังไม่สาย

เป็นหนังสือที่ให้แรงบันดาลใจแก่คนรุ่นใหม่ได้ดีมากๆ เนื่องจากผมก็เป็นคนรุ่นใหม่ที่อายุไม่ห่างจากผู้เขียนเท่าไหร่ พอได้อ่านหนังสือเล่มนี้ ก็ต้องบอกว่าทึ่งมากๆ ที่เค้ามีความสามารถมากขนาดนี้ และสามารถทำให้ที่บ้านจากติดลบ มาสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวจนมีบริษัทของตัวเองยอดขายหลายพันล้านบาทได้ ผู้ที่ต้องการทำธุรกิจส่วนตัวควรอ่าน ศึกษาวิธีคิด และนำมาใช้กับการสร้างธุรกิจของตัวเอง น่าจะทำให้มุมมองของการเริ่มทำธุรกิจของพวกเราพัฒนาไปได้เร็วกว่าเดิมมากครับ

เป็นหนังสือที่ให้แรงบันดาลใจแก่คนรุ่นใหม่ได้ดีมากๆ เนื่องจากผมก็เป็นคนรุ่นใหม่ที่อายุไม่ห่างจากผู้เขียนเท่าไหร่ พอได้อ่านหนังสือเล่มนี้ ก็ต้องบอกว่าทึ่งมากๆ ที่เค้ามีความสามารถมากขนาดนี้ และสามารถทำให้ที่บ้านจากติดลบ มาสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวจนมีบริษัทของตัวเองยอดขายหลายพันล้านบาทได้ ผู้ที่ต้องการทำธุรกิจส่วนตัวควรอ่าน ศึกษาวิธีคิด และนำมาใช้กับการสร้างธุรกิจของตัวเอง น่าจะทำให้มุมมองของการเริ่มทำธุรกิจของพวกเราพัฒนาไปได้เร็วกว่าเดิมมากครับ

ผมลองไปค้นหาชื่อผู้เขียนดูแล้วก็พบว่าเขาทำ amway ครับ ทำให้หนังสือเล่มนี้ดูจะเหมือนเป็นการโปรโมตคนแต่งเสียมากกว่าแล้วเนื้อหาก็แทบไม่มีอะไรที่จะช่วยให้ผู้อ่านนั้นได้มีความรู้ขึ้นมากเลยแม้แต่น้อย อาจจะช่วยได้แต่บอกว่าให้พยายามรวยให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้แต่จะมีซักกี่คนที่จะได้ทำได้แบบนั้นล่ะ

ผมลองไปค้นหาชื่อผู้เขียนดูแล้วก็พบว่าเขาทำ amway ครับ ทำให้หนังสือเล่มนี้ดูจะเหมือนเป็นการโปรโมตคนแต่งเสียมากกว่าแล้วเนื้อหาก็แทบไม่มีอะไรที่จะช่วยให้ผู้อ่านนั้นได้มีความรู้ขึ้นมากเลยแม้แต่น้อย อาจจะช่วยได้แต่บอกว่าให้พยายามรวยให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้แต่จะมีซักกี่คนที่จะได้ทำได้แบบนั้นล่ะ

ผมซื้อหนังสือเล่มนี้ให้ลูกชายอายุ 13 อ่าน เพราะว่าเขาชอบเรื่องวิทยาศาสตร์มาก แต่อาจจะยังไม่เคยรู้เรื่องเกี่ยวกับวิวัฒนาการของร่างกายมนุษย์ จากสมัยเมื่อหลายล้านปีที่แล้ว จนมาถึงปัจจุบัน โดยส่วนตัวแล้วผมเองก็เป็นผู้ที่ชอบอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของมนุษย์ชาติ และการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นมาตลอดเวลาที่พวกเราได้พัฒนาสภาพร่างกายเพื่อให้สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมในปัจจุบันได้ หนังสือเล่มนี้ได้เล่าโดยการนำเรื่องที่เราสงสัยกันว่าทำไมคนเราถึงได้มีวิวัฒนาการมาเป็นแบบนี้ในปัจจุบัน มาเชื่อมโยงกับเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ได้ เหมือนกับเป็นการเปิดโลกให้เราสามารถนำความรู้และข้อมูลที่นักวิทยาศาสตร์และนักคิดผู้มีชื่อเสียงหลายๆคนได้ทำการศึกษามาเป็นเวลานาน เพื่อมาอธิบายเรื่องที่ดูเผินๆอาจจะเข้าใจได้ยาก

ผมซื้อหนังสือเล่มนี้ให้ลูกชายอายุ 13 อ่าน เพราะว่าเขาชอบเรื่องวิทยาศาสตร์มาก แต่อาจจะยังไม่เคยรู้เรื่องเกี่ยวกับวิวัฒนาการของร่างกายมนุษย์ จากสมัยเมื่อหลายล้านปีที่แล้ว จนมาถึงปัจจุบัน โดยส่วนตัวแล้วผมเองก็เป็นผู้ที่ชอบอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของมนุษย์ชาติ และการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นมาตลอดเวลาที่พวกเราได้พัฒนาสภาพร่างกายเพื่อให้สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมในปัจจุบันได้ หนังสือเล่มนี้ได้เล่าโดยการนำเรื่องที่เราสงสัยกันว่าทำไมคนเราถึงได้มีวิวัฒนาการมาเป็นแบบนี้ในปัจจุบัน มาเชื่อมโยงกับเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ได้ เหมือนกับเป็นการเปิดโลกให้เราสามารถนำความรู้และข้อมูลที่นักวิทยาศาสตร์และนักคิดผู้มีชื่อเสียงหลายๆคนได้ทำการศึกษามาเป็นเวลานาน เพื่อมาอธิบายเรื่องที่ดูเผินๆอาจจะเข้าใจได้ยาก

เป็นหนังสือที่เตือนใจวัยรุ่นว่าเดี๋ยวนี้เราต้องเก่ง ต้องประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ผมไม่ชอบตรงที่คนเขียนพูดถึงแต่เรื่อง รถ หรือวัตถุที่ต้องใช้เงินจำนวนมากซื้อ มันทำให้ดูเหมือนกับว่าสมัยนี้คนเราจะวัดความสำเร็จกันแค่เรื่องเงินที่สามารถหามาได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งผมคิดว่าไม่ถูกต้องซะทีเดียว

เป็นหนังสือที่เตือนใจวัยรุ่นว่าเดี๋ยวนี้เราต้องเก่ง ต้องประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ผมไม่ชอบตรงที่คนเขียนพูดถึงแต่เรื่อง รถ หรือวัตถุที่ต้องใช้เงินจำนวนมากซื้อ มันทำให้ดูเหมือนกับว่าสมัยนี้คนเราจะวัดความสำเร็จกันแค่เรื่องเงินที่สามารถหามาได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งผมคิดว่าไม่ถูกต้องซะทีเดียว

ผมซื้อหนังสือเล่มนี้เพราะชื่อเรื่องน่าสนใจ เนื่องจากผมเป็นพนักงานประจำที่กินเงินเดือน และเรื่องลาออกก็เป็นเรื่องที่พนักงานอย่างผมอาจจะต้องทำเมื่อมีการเปลี่ยนงานไปทำงานที่อื่นหรือไปทำธุรกิจส่วนตัว ในเล่มผู้เขียนจะอธิบายว่าทำไมเขาถึงไม่อยากทำงานกินเงินเดือนไปตลอด และทำไมเขาถึงอยากที่จะลาออกมาเพื่อที่จะมีอิสระ โดยที่ต้องมีเงินเข้ามาโดยที่ไม่ต้องทำงาน ซึ่งเขาก็ได้บอกว่าอาจจะมาจากการลงทุนต่างๆ แต่ก็ไม่ได้ละเอียดมากนัก หนังสือเล่มนี้อาจจะเป็นการกระจายความรู้สึกของคนๆหนึ่งที่ต้องการอิสระ และก็คงมีอีกหลายๆคนที่เหมือนผมและได้ซื้อหนังสือเล่มนี้เพราะอยากรู้ว่าคนที่ลาออกมาแล้ว เขารู้สึกอย่างไร คิดถูกหรือไม่และจะใช้ชีวิตอย่างไรต่อไป

ผมซื้อหนังสือเล่มนี้เพราะชื่อเรื่องน่าสนใจ เนื่องจากผมเป็นพนักงานประจำที่กินเงินเดือน และเรื่องลาออกก็เป็นเรื่องที่พนักงานอย่างผมอาจจะต้องทำเมื่อมีการเปลี่ยนงานไปทำงานที่อื่นหรือไปทำธุรกิจส่วนตัว ในเล่มผู้เขียนจะอธิบายว่าทำไมเขาถึงไม่อยากทำงานกินเงินเดือนไปตลอด และทำไมเขาถึงอยากที่จะลาออกมาเพื่อที่จะมีอิสระ โดยที่ต้องมีเงินเข้ามาโดยที่ไม่ต้องทำงาน ซึ่งเขาก็ได้บอกว่าอาจจะมาจากการลงทุนต่างๆ แต่ก็ไม่ได้ละเอียดมากนัก หนังสือเล่มนี้อาจจะเป็นการกระจายความรู้สึกของคนๆหนึ่งที่ต้องการอิสระ และก็คงมีอีกหลายๆคนที่เหมือนผมและได้ซื้อหนังสือเล่มนี้เพราะอยากรู้ว่าคนที่ลาออกมาแล้ว เขารู้สึกอย่างไร คิดถูกหรือไม่และจะใช้ชีวิตอย่างไรต่อไป

หนังสือเล่มนี้ดีตรงที่ผู้เขียน เขียนจากประสบการณ์จริงไม่อิงนิยาย เลยน่าเชื่อถือมาก และดูๆแล้วแต่ละวิธีก็ไม่น่าจะเป็นการหลอกตามอินเตอร์เนตทั่วๆไป และไม่ใช่ว่าง่ายที่จะทำ มันจึงเป็นวิธีการหาเงินที่น่าเชื่อถือและถ้าทำจริงจังก็จะสามารถทำรายได้ให้เราได้ค่อนข้างมาก และที่สำคัญเราจะได้มีอิสระที่จะทำมันเมื่อไหร่ก็ได้ ขึ้นกับความขยันของเราเอง การรวบรวมวิธีเอาใว้ในเล่มเดียวทำให้หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ดีในแง่การเริ่มต้นหาเงินออนไลน์ เพราะจะทำให้เราได้ทดลองวิธีต่างๆ เพื่อทดสอบความชอบและความถนัดของเราก่อนที่จะเริ่มทำจริงๆจังๆในวิธีใดวิธีหนึ่ง

หนังสือเล่มนี้ดีตรงที่ผู้เขียน เขียนจากประสบการณ์จริงไม่อิงนิยาย เลยน่าเชื่อถือมาก และดูๆแล้วแต่ละวิธีก็ไม่น่าจะเป็นการหลอกตามอินเตอร์เนตทั่วๆไป และไม่ใช่ว่าง่ายที่จะทำ มันจึงเป็นวิธีการหาเงินที่น่าเชื่อถือและถ้าทำจริงจังก็จะสามารถทำรายได้ให้เราได้ค่อนข้างมาก และที่สำคัญเราจะได้มีอิสระที่จะทำมันเมื่อไหร่ก็ได้ ขึ้นกับความขยันของเราเอง การรวบรวมวิธีเอาใว้ในเล่มเดียวทำให้หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ดีในแง่การเริ่มต้นหาเงินออนไลน์ เพราะจะทำให้เราได้ทดลองวิธีต่างๆ เพื่อทดสอบความชอบและความถนัดของเราก่อนที่จะเริ่มทำจริงๆจังๆในวิธีใดวิธีหนึ่ง